Posted : 20 Aug 2020

อีกประเด็นนึงที่เราต้องพิจารณาหนักเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกง ก็คือเรื่องค่าเงิน

เมื่อมีวิกฤตทางการเมืองเกิดขึ้น นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์ของฮ่องกง การเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศก็เพิ่มมากขึ้น ช่วง Roadshow กองทุน Alpha ผมคุยกับนักลงทุนในฮ่องกงหลายคนเริ่มโยกเงินลงทุนไปสินทรัพย์ต่างประเทศแล้ว เมื่อเราพิจารณาประเด็นนี้ให้ดีจะเห็นได้ว่า การที่เงินไหลออกจากฮ่องกงจะกระทบกับฮ่องกงดอลล่าร์โดยตรง

บางคนบอกว่า เอ๊ะ จะกระทบยังไงในเมื่อฮ่องกงดอลล่าร์ผูกติดกับยูเอสดอลล่าร์ ซึ่งนั่นแหละครับคือปัญหาใหญ่ของธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) การผูกค่าเงินเข้ากับดอลล่าร์ คือการที่ HKMA แทรกแซงกลไกตลาด ด้วยการซื้อขายค่าเงิน USD และ HKD เพื่อคุมอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับ 7.75-7.85 USD/HKD

งั้นแปลว่าถ้ามีนักลงทุนเทขายสกุลเงิน HKD เพื่อย้ายหนีไปลงทุนในสินทรัพย์สกุลเงินอื่น เงิน HKD จะอ่อนตัวลงอย่างหนัก

สิ่งที่ HKMA ต้องทำ ก็คือ เทขาย USD แล้วกว้านซื้อ HKD กลับมาเข้าพอร์ตเพื่อพยุงราคา HKD ไม่ให้อ่อนตัวเกิน 7.85 USD/HKD ซึ่งถ้าเราดูในกราฟในภาพ จะเห็นว่าตอนนี้ค่าเงิน HKD อ่อนค่าที่สุดในประวัติศาสตร์ 35 ปี (อาจจะนานกว่านี้มั้ย ผมยังไม่ได้ดูข้อมูลย้อนหลังเกิน 1985) แปลว่าทุกวันนี้ภาระหนักของ HKMA คือต้องพยุงค่าเงินฮ่องกงไม่ให้อ่อนตัว จากเงินทุนที่ไหลออกอย่างหนัก

ถ้าใครจำประวัติศาสตร์ได้ เมื่อช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ธนาคารแห่งประเทศไทยต่อสู้จนตัวตายเพื่อปกป้องค่าเงินบาทจากการโดนโจมตี ใช้เงินไปประมาณ $30,000 ล้าน เพื่อตรึงค่าเงิน THB อยู่กับ USD ปรากฏว่าเงินหมดคลัง สุดท้ายจำต้องลอยตัวค่าเงินบาท ก่อให้เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง เป็นวิกฤติเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ที่รุนแรง และเกิดลูกโซ่ไปทั่วโลก

เมื่อปีที่แล้ว Bloomberg บอกว่า HKMA ใช้เงิน $2,400 ล้าน หรือประมาณ 75,000 ล้านบาท “ต่อสัปดาห์” ในการปกป้องค่าเงินดอลล่าร์ฮ่องกง..!!

นั่นคือยอดเงินที่ HKMA ใช้ก่อนเกิดวิกฤติการณ์การทางการเมืองและทุนไหลออกอย่างหนักในปัจจุบัน ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตอนนี้ HKMA ใช้ทุนสำรองแทรกแซงค่าเงินสัปดาห์ละเท่าไหร่

ทุนสำรองของฮ่องกงมีอยู่ประมาณ 440,000 ล้าน USD ครับ คำนวณด้วยคณิตศาสตร์ง่ายๆ ถ้าเงินทุนยังคงไหลออกต่อไปด้วยปริมาณระดับนี้ เงินทุนสำรองของฮ่องกงมีโอกาสจะหมดภายใน 2 ปีหรืออาจจะเร็วกว่านั้น (และถ้าสถานการณ์ทุนไหลออกชัดเจนกองทุนเฮ็ดจ์ฟันด์ทั้งหลายก็อาจจะร่วมวงเข้ามาถล่มค่าเงินฮ่องกงด้วย ไม่ต่างจากที่ไทยเคยโดนต้มยำกุ้งมาก่อน)

ยิ่งตอนนี้รัฐบาลจีนมีแนวโน้มจะตัดหางปล่อยวัดฮ่องกง หากเกิดวิกฤติทุนไหลออกจริง ยังสงสัยอยู่ว่าจีนจะช่วยฮ่องกงแค่ไหน..? แต่ในมุมมองส่วนตัวของผม HKMA คงไม่ปล่อยให้เกิดสถานการณ์เงินทุนสำรองหมดคลังแบบที่เคยเกิดกับไทยหรอกครับ ประวัติศาสตร์เคยเป็นบทเรียนมาแล้ว แต่ถ้ามาคิดว่าจะแก้ทางด้วยวิธีไหน เช่น การควบคุมเงินทุนไหลออก (Capital Control) อันนี้ก็จะยิ่งสร้างความกดดันทางการเมือง เพราะฮ่องกงจะเปลี่ยนจากประเทศเสรีด้านเงินทุนกลายเป็นถูกควบคุม (ไม่ต่างจากจีน) หรือนโยบายอื่น ๆ เช่นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ฯลฯ ล้วนสั่นคลอนโครงสร้างเศรษฐกิจฮ่องกงให้มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทั้งนั้น

“ฮ่องกงตอนนี้ไม่ได้น่าเป็นห่วงแค่เรื่องการเมืองอย่างเดียวซะแล้วครับ”

Niran Pravithana

Author Niran Pravithana

CEO of Market Anyware

More posts by Niran Pravithana