เห็นหลายคนบอกว่าหุ้นไทยตกหนักจาก 1,800 มา 1,000 จุดนี่เป็นโอกาสการลงทุนในรอบทศวรรษ เอาจริง ๆ ผมค่อนข้างเห็นต่างพอสมควร ด้วยหลาย ๆ เหตุผลครับ
- ถ้าเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ Recession จริงๆ หลังจบ COVID-19 ก็ใช่ว่าผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ จะดีขึ้นแบบก้าวกระโดด กว่าจะผ่านพ้นช่วง Recession ไปได้น่าจะใช้เวลาหลายปี
- เซกเตอร์ที่ Market Cap ใหญ่ที่สุดใน SET คือกลุ่มพลังงาน (.ENERG) ที่ยังต้องตั้งคำถามกับแนวโน้มราคาน้ำมันหลังจากนี้ ว่าจะไปในทิศทางไหน
- เซกเตอร์อันดับ 2 อย่างกลุ่มค้าปลีก (.COMM) ยังมีคำถามว่า ในช่วง Recession รุนแรง คนตกงาน ธุรกิจ SME ล้มเป็นลูกโซ่ หนี้ครัวเรือนสูงก้าวกระโดด คนไทยจะยังมีกำลังซื้อมากน้อยแค่ไหน
- เซกเตอร์อันดับ 4 อย่างกลุ่มธนาคาร (.BANK) ซึ่งเจอกับปัญหาโดยตรง ทั้งอัตรา NPL ที่เพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง แถมท้ายด้วยการ Disruption จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่กระทบโดยตรงกับรายได้ของธนาคาร (คิดง่าย ๆ ธนาคารเคยเป็นเซกเตอร์อันดับ 2 ตอนนี้ร่วงมาอันดับ 4 เพราะจุดแข็งของธุรกิจหายไปทุกวัน ๆ)
- เซกเตอร์อันดับ 5 อย่างขนส่ง (.TRANS) นำโดย AOT เราก็ยังไม่รู้ว่า กลุ่มท่องเที่ยวเอย สายการบินเอย จะเหลือรอดแค่ไหนหลัง COVID-19 ถ้ารอดก็รอดแบบเฉียดเส้นตายหวุดหวิด (อาจจะมองในแง่ดีหน่อยว่า คนที่รอดจะได้เปรียบมากหลังวัคซีน COVID-19 ออก เพราะนักท่องเที่ยวทั่วโลกตอนนี้อัดอั้นอยากเดินทางกันสุดขีด ถ้าพวกเค้ายังเหลือเงินให้เที่ยวได้อะนะ)
- เซกเตอร์รอง ๆ ลงมาอย่างกลุ่มอสังหา (.PROP) ได้ยินจากคนในวงการว่าตอนนี้เหนื่อยมาก ด้วยเศรษฐกิจขาลง น่าจะทำให้กลุ่มอสังหาเหนื่อยต่อไปอีกยาว ๆ
ที่พูดไปนี่รวมๆ กันเกือบ 70% ของ SET ละครับ
เอาจริง ๆ แล้วในมุมของผม ปัญหาของ SET คือ ไม่มีบริษัทหน้าใหม่ที่เติบโตด้วยนวัตกรรม แทบจะทั้งหมดของยักษ์ใหญ่ใน SET เป็นกลุ่มธุรกิจแบบ Traditional ที่เติบโตจากกลไกเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม ที่ไม่เอื้อให้เติบโตก้าวกระโดดในโลกยุคใหม่ เมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาที่มีธุรกิจอย่าง Google, Microsoft, Facebook, Netflix ฯลฯ หรือจีนที่มี Tencent, Alibaba เราจะเห็นความแตกต่างของบริษัทจดทะเบียนอย่างชัดเจน
ที่ร่ายมาทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะเห็น SET กลับสู่ภาวะกระทิงหรอกนะครับ แต่ในระยะยาว ตลาดหุ้นจะขึ้นจากปัจจัยพื้นฐาน ตราบใดที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่ก้าวกระโดด ความหวังที่เราจะเห็น SET วิ่งฉิวหลัง COVID-19 อย่างที่ใครหลาย ๆ คนฝันกัน คงเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย
PS. ขยายความเพื่อให้เจาะจงมากขึ้น คือถ้า SET จะกลับมาที่แถว 1,800 ในช่วง 2-3 ปีนี้ผมคิดว่าอาจจะพอมีทางเป็นไปได้ (ซึ่งมันก็ +80% แล้วอะนะ) แต่จะหวังให้ตลาดทำ new high ยิ่งยาวๆ ไป 2,000-3,000 อันนี้คือสิ่งที่ผมคิดว่ามันไม่น่าจะเกิดโดยง่ายครับ
PS. ไม่ได้ระบุเซกเตอร์อันดับ 3 อย่างกลุ่มสื่อสาร (.ICT) เพราะนี่เป็นเซกเตอร์เดียวที่ผมรู้สึกว่ามันน่าจะมี Sentiment ในแง่บวก หลัง COVID-19 ที่ New Normal ของคนไทย จะมาใช้เครื่องมือออนไลน์ในการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Work From Home หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ
PS. โอกาสนึงที่ SET อาจจะเป็นกระทิงได้จริง คือถ้ามี fund flow เข้า เช่น จากสถาบัน กองทุนประกันสังคม กบข. ซึ่งกองทุนเหล่านี้จำเป็นต้องหาที่วางเงินใหม่ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำติดดิน จะเป็นตัวบังคับให้เหล่ากองทุนต้องจัด Asset Allocation ใหม่ เพื่อเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ตลาดจะโตแบบพื้นฐานไม่แข็งแรง เพราะถ้าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่เพิ่ม สุดท้าย PE ของ SET จะสูงจนเรียกได้ว่าแพงเกินมูลค่าครับ